วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ความทุกข์ของเทศบาลท่าขอนยาง (ตุลาคม ๒๕๖๑)

วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ ทีมผู้ประสานงานรายวิชา ๐๐๓๕๐๐๑ หนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน ร่วมลงพื้นที่เพื่อศึกษาปัญหาชุมชนกับนิสิตหลักสูตร English for Internaional Communication (EIC) ของภาควิชาภาษาตะวันตก คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์   ท่าน ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ให้การต้อนรับ พร้อมกับบรรยายให้ข้อมูลเบื้องต้นอย่างดีเยี่ยม ...  ผมขออนุญาตท่านเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับนิสิตและอาจารย์ทุกคนที่จะมาช่วยกันเรื่องการจัดการขยะในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลท่าขอนยาง  ... ขอขอบคุณท่านมากๆ ครับ และขอชื่นชมน้องเจ้าหน้าที่ที่ทำสไลด์ให้ข้อมูลได้ดีมากๆ



ข้อมูลพื้นฐาน



  • เทศบาลตำบลท่าขอนยาง มีพื้นที่ทั้งหมด ๓๘.๖๒ ตารางกิโลเมตร  ๑๕ หมู่บ้าน
  • หรือคิดเป็นประมาณ ๒๔,๒๖๓ ไร่ เป็นพื้นที่การเกษตรประมาณร้อยละ ๘๐ พื้นที่สาธารณะประโยชน์ร้อยะเกือบ ๒๐ ที่เหลือเป็นพื้นที่อยู่อาศัยประมาณ ๒ พันไร่ 


  • ตามทะเบียนราษฎร์ มีจำนวนประชากรเพียง ๘,๖๖๓ ชายหญิงเกือบครึ่งๆ 
  • ประชากรแฝงประมาณ ๓๐,๐๐๐ คน เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม 
  • หากประชากรแฝงเหล่านี้ ย้ายทะเบียนราษฎร์มาขึ้นกับเทศบาลฯ เทศบาลท่าขอนยางจะได้รับงบประมาณจากเพื่อจัดการดูแลประมาณ ๗๕ ล้านบาทต่อปี (คนละประมาณ ๒๕,๐๐๐ บาทต่อคน)


  • สังเกตว่า มีศูนย์การเรียนรู้เกษตรพอเพียง ๑ แห่ง ที่บ้านหัวขัว 
  • มีศูนย์สาธารณสุขมูลฐานตำบล ๑๕ แห่ง และ
  • มีวัด ๙ แห่ง และสำนักสงฆ์ ๒ แห่ง

  • มะเร็งคือสาเหตุอันดับหนึ่งของการตาย  มากถึงร้อยละ ๒๐ 
  • สาเหตุของการเสียชีวิตที่มีต้นเหตุมาจากอาหารรวมกันสูงถึงร้อยละ ๔๐  มีคนเสียชีวิตเพราะโรคชราเพียงร้อยละ ๑๐ เท่านั้น  (ผมเดาว่า ที่เหลืออีกร้อยละ ๔๐ อาจตายด้วยอุบัติเหตุ)





  • มีผู้ทำเกษตรกรรมร้อยละ ๓๓  ไม่ถึงครึ่ง 
  • รับจ้างทั่วไปสูงถึง ร้อยละ ๒๓   ค้าขายเองเพียงร้อยละ ๗ 
ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาขยะ



  • มีกิจการหอพักที่ขึ้นทะเบียน ๓๘๕ หอพัก  ... ความจริงมีหอพักมากถึง ๔๐๕ หอพัก 
  • มีร้านมินิมาร์ทมากถึง ๒๗๘ แห่ง อาคารพาณฺชย์ให้เช่ามากถึง ๑๑๙ แห่ง โรงแรม ๘ แห่ง และร้านอาหาร ๙๐ แห่ง ... ผมตีความว่า สถานที่เหล่านี้เกี่ยวข้องกับนิสิตประชากรแฝงกว่า ๓๐,๐๐๐ คน และเป็นแหล่งก่อขยะหลัก 



  • เทศบาลมีรถเก็บขนขยะ ๓ คัน ... มีพนักงานท้ายรถรวมแล้วประมาณ ๑๒ คน 


  • ปริมาณขยะต่อปีอยู่ที่ประมาณ ๓,๒๐๐ ตัน  ต่อเดือนประมาณ ๓๒๐ ตัน หรือคิดเป็นประมาณ ๑๐ ตัน ต่อวัน  ...  ท่าน ผอ. บอกว่า นี่เป็นปริมาณที่เราเก็บขนได้  จริงๆ แล้วแต่ละวันจะมีการก่อขยะในเขตถึงวันละ ๓๐ ตัน (เฉพาะในเขตเทศบาล ไม่รวมหมู่บ้านรอบนอก)


  • ในการทิ้งขยะที่บ่อขยะหนองปลิง (ดูที่นี่) เทศบาลฯ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการทิ้งขยะตันละ ๔๐๐ บาท  คิดเป็นสัปดาห์ละ ๔,๐๐๐ บาท เดือนละ ๑๒๐,๐๐๐ บาท ปีละ ๑,๔๐๐,๐๐๐ บาท 
  • นอกจากนั้นยังต้องจ่ายค่าน้ำมันเชือเพลิงถึงเกือบ ๘๐๐,๐๐๐ บาท ค่าจ้างคนงานอีก ๗๐๐,๐๐๐ และค่าซ่อมบำรุงรถอีก ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท 
  • รวมๆ คือเกือบ ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี ที่เทศบาลต้องจ่ายเรื่องขยะ 


  • ปัญหาและอุปสรรคสำคัญในการจัดการขยะ
    • ไม่มีบ่อเก็บขยะของตนเอง 
    • ขยะมีปริมาณมาก เก็บขนได้ไม่หมดในแต่ละวัน ... เก็บได้เพียง ๑ ใน ๓ ของขยะเท่านั้น
    • มีขยะจากนอกพื้นที่เข้ามาทิ้งในเขตที่เทศบาลรับผิดชอบ
    • รถเก็บขยะชำรุดบ่อย ต้องซ่อมบำรุงบ่อยๆ 
    • ผู้ก่อขยะขาดจิตสำนึกที่จะช่วยกันลดปริมาณขยะ 
  • มีความเสี่ยงอย่างมาก กรณีที่เทศบาลเมืองซึ่งดูแลบ่อขยะหนองปลิง ปิดปรับปรุงไม่ให้นำขยะไปทิ้ง 

การจัดการขยะของเทศบาล



  • แนวทางในการจัดการขยะและแก้ไขปัญหาที่เทศบาลทำอย่างต่อเนื่อง มี ๔ แนวทาง ได้แก่
    • เก็บขนไปทิ้งบ่อขยะหนองปลิง
    • ลดปริมาณ
    • สร้างการมีส่วนร่วมจากชุมชน
    • สร้างจิตสำนึกและรณรงค์กับนิสิต นักเรียน ร้านอาหาร ... ท่านบอกว่าไม่ได้ผลเลย 
  • โดยแต่ละแนวทาง ท่านได้นำเสนอและเล่าเรื่องให้ฟังค่อนข้างละเอียด ... เห็นถึงความพยายามจัดการขยะอย่างมาก


















ประเด็นที่น่าเห็นใจยิ่ง

  • ปริมาณขยะเยอะมากเกินไป ไม่มีทางจะเก็บขนได้ทัน .... ทางเดียวที่จะแก้ไขได้คือการลดปริมาณขยะ 
  • ผู้ที่ก่อขยะส่วนใหญ่น่าจะมาจากร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงต่างๆ และขยะจากหอพัก ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับประชากรแฝง ๓๐,๐๐๐ คน ที่เป็นนิสิต 
ผมฝันว่า นิสิตที่จะเรียนรายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชนทุกคนในปีการศึกษาที่ ๒-๒๕๖๑ แยกขยะ และลดปริมาณขยะอย่างพร้อมเพียงกัน และช่วยกันคนละไม้ละเมือในการหาแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น